Main navigation
วิชชา
Share:

(๑) ที่เรียกว่า วิชชา วิชชา ดังนี้ วิชชาเป็นไฉน และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชาด้วยเหตุเพียงเท่าไร

อริยสาวกผู้ได้สดับแล้วในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดาว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดาว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

นี้เรียกว่า วิชชา และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชาด้วยเหตุเพียงเท่านี้

(๒) ที่เรียกว่า วิชชา วิชชา ดังนี้ วิชชาเป็นไฉน และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชาด้วยเหตุเพียงเท่าไร

อริยสาวกผู้ได้สดับแล้วในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งคุณ โทษและอุบายเครื่องสลัดออกแห่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งคุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งรูป เวทนา

นี้เรียกว่า วิชชา และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่านี้

(๓)  ข้อที่อริยสาวกระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมากพร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ นี้ก็เป็นวิชชาของเธอประการหนึ่ง

ข้อที่อริยสาวกเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยากด้วยทิพยจักษ์อันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม นี้ก็เป็นวิชชาของเธอประการหนึ่ง

ข้อที่อริยสาวกทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติอันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ข้อนี้เป็นความแตกฉานแห่งฌานข้อที่สาม นี้ก็เป็นวิชชาของเธอประการหนึ่ง

 

อ้างอิง:
(๑) สมุทยธัมมสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗  ข้อที่ ๓๒๑ หน้า ๑๖๕-๑๖๖
(๒) อัสสาทสูตรที่ ๒ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗  ข้อที่ ๓๒๕ หน้า ๑๖๗-๑๖๘
(๓) เสขปฏิปทาสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓ ข้อที่ ๓๔ หน้า ๒๘-๒๙

 

 

คำต่อไป