Main navigation

ทะลุ 'รู้' สู่ความบริสุทธิ์

Q ถาม :

กราบท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมนั่งสมาธิ ก็ไม่รู้ว่าอันนี้คือปัญญาที่เห็นหรือเป็นความคิดเฉย ๆ นะครับ (เท่าที่ผมสังเกตตัวเอง มันประกอบกันไปมาระหว่างความคิดบาง ๆ กับปัญญา)

ผมเห็นว่ากายสังขารนี้ไม่ว่าจะอะไรทั้งสิ้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่อย่างนั้น (มีการสั่นสะเทือนจึงเกิดคลื่นที่ต่างกัน แต่อาจจะสอดคล้องกันในจักรวาล สิ่งหนึ่งเป็นผลสอดคล้องกับอีกสิ่งหนึ่ง) แต่ตัวที่สำคัญคือจิตตสังขารของเราที่ออกไปรับรู้คลื่นหรือสิ่งสั่นสะเทือนต่าง ๆ ที่เป็นของมันอยู่อย่างนั้น บวกกับการเอามาตีความข้างในของเรา ก็เลยเกิดปัญหาจากการตีความของเรานี่เอง

คราวนี้เราจึงต้องเอาตัวรู้อยู่ในจุดของเรานี่แหละครับ ถ้าตั้งใจจะไม่รับรู้ก็จะไม่เกิดเรื่อง แบบนี้เรียก ‘สมถะ’ แต่ถ้าตัวรู้ตั้งใจรับรู้ โดยไม่ตีความอันนี้เรียกว่า 'วิปัสสนา' ครับ

ในระบบจักรวาลเดียวกัน การรับรู้ของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จึงเกิดจากความสามารถในการรับคลื่นว่ารับได้หรือไม่ ก็แสดงว่า
1) สิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลที่เรารับรู้ไม่ได้อาจจะมีอยู่ เพียงแค่ว่าเรารับคลื่นไม่ได้
2) ส่วนสิ่งที่เรารับคลื่นได้ก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ จากการตีความของจิตของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งเดียวกันที่เกิดขึ้นอยู่อันเดียวกัน

วันนี้ที่ผมละเอียดขึ้นอีกอย่างคือ อริยสัจ 4 ที่เริ่มด้วยคำว่าทุกข์นั้น เพียงแค่เห็นทุกข์เท่านั้นแต่ต้องไม่ทุกข์ เพราะถ้าทุกข์อยู่พิจารณาอะไรไม่ได้ ออกไม่ได้ เหมือนยืนอยู่คนละข้างจริง ๆ ครับ ต้องยืนอยู่ข้างสุข (สุขแบบเฉย ๆ คือ ยืนข้างนิโรธ) แล้วมองกลับมาที่ทุกข์ จึงรู้ทุกข์และแก้ได้ครับ ผมก็เลยเขียนมากราบเรียนท่านอาจารย์ครับ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

Dee mark krub.  Good advancement.

พอมั่นคงดีแล้ว ลองทะลุผ่านจุดเดียวนั้นสู่ความบริสุทธิ์ อันบรมว่าง บรมสุข
 

ผู้ถาม

กราบขอท่านอาจารย์ช่วยขยายความให้ผมหน่อยครับ ว่า ‘ลองทะลุผ่านจุดเดียวนั้น’ คือจุดไหนครับ จุดที่เรามองทุกข์หรือไม่ครับ กราบขอบพระคุณครับ 

อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ

จุดที่ "รู้" ตั้งอยู่ ครับ

ทะลุแล้ว จะได้ "รู้" ที่ยิ่งกว่า


ผู้ถาม

กราบเรียนท่านอาจารย์ครับ ผมก็ยังคงทำไม่ได้เท่าไหร่เลยครับ เรื่องของการทะลุตัวรู้ แต่วันนี้สิ่งที่ผมเจอ ( ซึ่งก็ไม่แน่ใจอีกว่าใช้ความคิดหรือเปล่า เหมือนจะปนกัน ) คือว่าตัวรู้แท้ ๆ มันแยกออกมายากครับ เนื่องจากว่ายังขมุกขมัวอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์เดิม ดังนั้น ตัวรู้ตัวนี้ก็จะไม่ได้รู้แบบซื่อ ๆ ใส ๆ เพราะเขายังไปหลงเอาอดีตมาเจือปน และ ณ จุดนี้ ถ้าจิตเราไม่ตั้งมั่น ก็จะไปผสมให้เกิดสังขารขึ้นใหม่อีกครับ 

ผมเลยอยากจะกราบเรียนท่านอาจารย์ว่าถูกต้องไหมครับ แล้วผมจะกลั่นกรองเอาเฉพาะตัวรู้แท้ ๆ ออกมาอย่างไรครับ ยังเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ สำหรับผมครับ

อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ

Methodology

1. Focus at the moment

2. ไม่ปรุงแต่ง ไปใน space and time

3. Purify "รู้"

ตัวชี้วัด

เมื่อมีแต่รู้ล้วน ๆ

1. แสงจิตจะปรากฏ

2. จะมีความผ่องใสโดยธรรมชาติ