Main navigation

ดีสวรรค์ต้องดีแท้

Q ถาม :

กราบเรียนท่านอาจารย์ ผมตั้งใจเดินทางความดีครับ ผมย้ำกับผู้ร่วมงานเสมอ เราสร้างองค์กรมิใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญของพวกเรา แต่เพื่อเหนี่ยวนำให้ผู้คนเกิดศรัทธาช่วยกันทำดีให้มากขึ้น กว้างไกลขึ้น ให้หอมหวล ให้ทำตามกัน ประโยชน์คุณค่าที่พวกเราเกื้อกูลกัน ได้ทำบุญในงาน และได้ความสุขความเจริญ ผมจะมั่นคงแน่วแน่เดินทางตามมรรควิถีมีองค์แปดครับ

กราบขอบพระคุณอย่างสูงที่ท่านอาจารย์เมตตาสั่งสอนอบรม ชี้ทางเดินเสมอมาครับ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

มีข้อแนะนำดังนี้ครับ

Stage of Goodness 

Stage 1 ขั้นอยากดี พยายามดี

ขั้นนี้จะเต็มไปด้วยหลักการ แนวคิด และทฤษฎีแห่งความดีมากมาย และพยายามทำดีเยอะแยะสะเปะสะปะ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง และบางอย่างมักดีสุดโต่งจนเลยดี เรียกว่าช่วง Goodness fantasy

Stage 2 ขั้นศีลหมดจด

ขั้นนี้จะตั้งมั่นใน "ความเคารพสิทธิ์" ซึ่งกันและกัน อันเป็นหัวใจของศีลทั้งปวง จิตใจของทุกคนจะเต็มไปด้วยหิริโอตัปปะ ละอายแม้ความผิดพลาดเล็กน้อย แม้คิดชั่วก็คิดไม่ได้ เรียกว่าช่วง Goodness trustworthy

Stage 3  ขั้นความเป็นธรรม

ขั้นนี้จะคิด พูด ทำ บริหารทุกสิ่งอย่างเที่ยงธรรม อันเป็นหัวใจของระบบกรรมทั้งหมด จิตใจปราศจากอคติเพราะหลงรัก หลงชัง หลงกลัว หลงผิด เรียกว่าช่วง Goodness reliability

Stage 4  ขั้นสมาธิใหญ่ ใจสะอาด

ขั้นนี้ใจจะสะอาด เป็นหนึ่ง ตั้งมั่น มีพลัง ไร้ขอบเขตตามธรรมชาติของจิตเอง เลิกวุ่นวาย คิดน้อยพูดน้อยทำน้อย แต่มีอานุภาพมาก มี impact มาก เป็นที่พึ่งทางจิตใจแก่ผู้อื่นได้ เรียกว่าช่วง Goodness benefaction

Stage 5 ขั้นปัญญาเที่ยงตรง ญาณสากล

ขั้นนี้ปัญญาญาณจะหมดจด แทงทะลุความมีอยู่เป็นอยู่ทั้งปวง สามารถนำตนและคนอื่นให้เจริญได้อย่างถูกทาง คิดพูดทำพอเหมาะพอดี ตรงสู่ผล เรียกว่าช่วง Goodness leader

Stage 6  ขั้น Purity

ขั้นนี้ศีลหมดจด ธรรมหมดจด ใจหมดจด ปัญญาหมดจด จิตหมดจด เมื่อบริสุทธิ์บริบูรณ์ จะเหนือดีอีกชั้นหนึ่ง ดังที่พระผู้มีพระภาคทรงให้ละชั่ว ประพฤติชอบ (ดี) ชำระจิตให้ใสรอบ (บริสุทธิ์) ช่วงนี้จึงเหนือดีอีกชั้น แต่ชาวบ้านก็มักเรียกรวมว่าดี ๆ ก็เป็น Good greatness ไม่ใช่ความดีระดับทั่วไป

Standard of Goodness

ความดี-ความชั่ว เป็นมาตรฐานสากลจักรวาล มีระบบกรรมเป็นเกณฑ์หลัก มีระบบเจ้ากรรมนายเวรเป็นผู้กำกับดูแล  

การยกระดับความดีแต่ละขั้น ไม่ใช่แค่รู้ หรือพูด แต่ทำได้จริง จนมีผลเสถียรในจิตใจและพฤติกรรม 

สวรรค์จะดูความจริงแท้แห่งจิตและพฤติกรรมเป็นสำคัญ ตามมาตรฐานความดีขั้นต่ำตามกฎแห่งกรรม (กฎหมายจักรวาล) คือ ศีลสะอาดทั้งต่อหน้าและลับหลัง

ท่านที่ประกาศความดีของตนทั้งหลาย ควรระวังอย่างที่สุด คือ ต้องมีจิตเช่นนั้นจริง และทำได้จริงตามนั้น หาไม่ จะโดนกรรมหนักมาก ประการหนึ่งคือ อวดอุตริมนุสธรรม และเป็นกรรมซ้ำซ้อนหลายประการ แต่ไม่ต้องกังวลเกินไป พระพุทธองค์ก็ทรงประกาศความเป็นพระพุทธเจ้าของพระองค์เช่นกัน แต่ทรงประกาศเมื่อเป็นความจริงแท้แล้วเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อประกาศแล้วก็ดี เหลือทางเดียวคือ ต้องทำจิตและพฤติกรรมของตนและทุกคนในองค์กรให้ได้จริงตามนั้น จึงจะดีจริง และปลอดบาปกรรม