Main navigation

สฬายตนวิภังคสูตร - อายตนะ ๖

บุคคลเมื่อรู้ เมื่อเห็นจักษุ รูป จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัสตามความเป็นจริง
เมื่อรู้เมื่อเห็นความเสวยอารมณ์เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม
มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตามที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัยตามความเป็นจริง
ย่อมไม่กำหนัดในจักษุ ในรูปในจักษุวิญญาณ ในจักษุสัมผัส
ไม่กำหนัดในความเสวยอารมณ์เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม
มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตามที่เกิดขึ้น เพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย
เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดนักแล้ว ไม่ประกอบพร้อมแล้ว
ไม่ลุ่มหลง เล็งเห็นโทษอยู่ ย่อมมีอุปาทานขันธ์ ๕ ถึงความไม่พอกพูนต่อไป
และเขาจะละตัณหาที่นำไปสู่ภพใหม่ สหรคตด้วยความกำหนัด
ด้วยอำนาจความยินดี อันมีความเพลิดเพลินในอารมณ์นั้น ๆ ได้
จะละความกระวนกระวาย ความเดือดร้อน
ความเร่าร้อนแม้ทางกาย แม้ทางใจได้
เขาย่อมเสวยสุขทางกายบ้าง สุขทางใจบ้าง
บุคคลผู้เป็นเช่นนั้นแล้ว มีความเห็นอันใด ความเห็นอันนั้นย่อมเป็นสัมมาทิฐิ
มีความดำริอันใด ความดำริอันนั้นย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ
มีความพยายามอันใด ความพยายามอันนั้นย่อมเป็นสัมมาวายามะ
มีความระลึกอันใด ความระลึกอันนั้นย่อมเป็นสัมมาสติ
มีความตั้งใจอันใด ความตั้งใจอันนั้นย่อมเป็นสัมมาสมาธิ
ส่วนกายกรรม วจีกรรม อาชีวะของเขาย่อมบริสุทธิ์ดีในเบื้องต้นเทียว
ด้วยอาการอย่างนี้
เขาชื่อว่ามีอัฏฐังคิกมรรคอันประเสริฐถึงความเจริญบริบูรณ์
 

พระสูตร:
สฬายตนวิภังคสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๑๔/๘๒๘ /๓๙๕-๓๙๖

icon อ่าน-ฟังพระสูตรเต็ม