Main navigation

สัมมสสูตร

ว่าด้วย
การพิจารณาปัจจัยภายใน
เหตุการณ์
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กัมมาสทัมมนิคมของชาวกุรุ ทรงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่าพิจารณาปัจจัยภายในบ้างหรือไม่ คำตอบของภิกษุไม่ถูกพระทัยพระผู้มีพระภาค พระอานนท์จึงทูลขอให้ทรงแสดงการพิจารณาปัจจัยภายใน

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เมื่อพิจารณา ย่อมพิจารณาซึ่งปัจจัยภายในว่า ชราและมรณะย่อมบังเกิดในโลก เป็นทุกข์หลายอย่างต่าง ๆ กัน
           
ชราและมรณะ มีอุปธิเป็นเหตุ มีอุปธิเป็นที่ตั้งขึ้น มีอุปธิเป็นกำเนิด มีอุปธิเป็นแดนเกิด เมื่ออุปธิมี ชราและมรณะจึงมี เมื่ออุปธิไม่มี ชราและมรณะก็ไม่มี เมื่อทราบชัดซึ่งชราและมรณะ ย่อมทราบชัดซึ่งความเกิด ความดับ ปฏิปทาอันสมควรเครื่องให้ถึงความดับแห่งชราและมรณะ และประพฤติตามปฏิปทานั้น จึงชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติธรรม เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความสิ้นทุกข์ เพื่อความดับไปแห่งชราและมรณะโดยชอบทุกประการ
           
อุปธิมีตัณหาเป็นเหตุ มีตัณหาเป็นที่ตั้งขึ้น มีตัณหาเป็นกำเนิด มีตัณหาเป็นแดนเกิด เมื่อตัณหามี อุปธิจึงมี เมื่อตัณหาไม่มี อุปธิก็ไม่มี เมื่อทราบชัดซึ่งอุปธิ เหตุเกิด ความดับ ปฏิปทาอันสมควรเครื่องให้ถึงความดับแห่งอุปธิ เพื่อความสิ้นทุกข์ เพื่อความดับแห่งอุปธิ และประพฤติตามปฏิปทานั้น จึงชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติธรรม เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความสิ้นทุกข์ เพื่อความดับไปแห่งอุปธิโดยชอบทุกประการ
           
 ตัณหาเมื่อเกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้นในที่ที่เป็นที่รัก เป็นที่ชื่นใจในโลก เมื่อตั้งอยู่ ย่อมตั้งอยู่ในที่นั้น
           
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อันเป็นที่รัก เป็นที่ชื่นใจในโลก ตัณหานั้นเมื่อเกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้นที่นั้น เมื่อตั้งอยู่ ย่อมตั้งอยู่ที่นั้น

สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดในอดีต อนาคต และปัจจุบัน เห็นอารมณ์อันเป็นที่รัก เป็นที่ชื่นใจในโลกโดยความเป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน เป็นของไม่มีโรค เป็นของเกษม สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ชื่อว่าทำตัณหาให้เจริญแล้ว เมื่อตัณหาเจริญแล้ว อุปธิก็เจริญแล้ว เมื่ออุปธิเจริญแล้ว ทุกข์ก็เจริญแล้ว เมื่อทุกข์เจริญแล้ว ชื่อว่าไม่พ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส กล่าวว่า เขาไม่พ้นแล้วจากทุกข์ได้เลย

เปรียบเหมือนบุรุษผู้กระหายน้ำดื่มน้ำเจือยาพิษโดยไม่ทันพิจารณา ตัวเขาย่อมตายหรือถึงทุกข์แทบตายเพราะการดื่มน้ำนั้น
           
สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดในอดีต อนาคต และปัจจุบัน เห็นอารมณ์อันเป็นที่รักเป็นที่ชื่นใจในโลกนั้น โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นสภาพมิใช่ตัวตน เป็นโรค เป็นภัยแล้ว สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นชื่อว่าละตัณหาได้แล้ว เมื่อละตัณหา ก็ละอุปธิเสียได้ เมื่อละอุปธิได้ ก็ละทุกข์เสียได้ เมื่อละทุกข์ได้แล้ว ชื่อว่าพ้นแล้วจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส กล่าวว่า เขาพ้นแล้วจากทุกข์ได้

เปรียบเหมือนบุรุษพิจารณาเหล้าแล้วไม่ดื่ม ทิ้งเหล้าไปเสีย เพราะเหล้านั้นไม่เป็นประโยชน์ เป็นทุกข์ เขาจึงไม่ตายหรือไม่ถึงความทุกข์แทบตายเพราะการดื่มเหล้านั้น




อ่าน สัมมสสูตร

 

อ้างอิง
สัมมสสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๖ ข้อที่ ๒๕๔-๒๖๒ หน้า ๑๐๔-๑๐๙
ลำดับที่
8

สถานการณ์

การปฏิบัติธรรม

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม