Main navigation

ผู้เห็นโทษว่าไม่เป็นโทษ

เหตุการณ์
พระศาสดาทรงปรารภเรื่องพวกเดียรถีย์สอนบุตรไม่ให้ไหว้สมณะ

พวกสาวกอัญญเดียรถีย์เห็นพวกบุตรของตนเล่นอยู่กับพวกบุตรของพวกอุบาสกผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ จึงสอนบุตรไม่ให้ไหว้สมณะและไม่ให้เข้าไปในวิหารของสมณะ

วันหนึ่ง เด็ก ๆ เล่นอยู่ใกล้ซุ้มประตูพระเชตวันวิหาร เกิดความกระหายน้ำขึ้น จึงให้เด็กผู้เป็นบุตรของอุบาสกคนหนึ่ง เข้าไปดื่มน้ำในวิหารและให้นำน้ำมาให้บุตรของเดียรถีย์ด้วย
 
พระศาสดาเห็นเด็กมาดื่มน้ำ ได้ตรัสบอกให้พวกเด็กภายนอกมาดื่มน้ำในวิหาร เมื่อพวกเด็กเหล่านั้นได้เข้ามาดื่มน้ำแล้ว พระศาสดาตรัสธรรมกถาที่สบายแก่เด็กเหล่านั้น ทรงทำเด็กเหล่านั้นให้มีศรัทธามั่นคง ให้ตั้งอยู่ในสรณะและศีล เด็กเหล่านั้นกลับสู่เรือนของตนแล้ว เล่าเรื่องราวแก่มารดาและบิดา
 
มารดาและบิดาของพวกเขาเกิดความโศกเศร้า คิดว่าเด็กเป็นคนมีทิฏฐิวิบัติเสียแล้ว แต่เพื่อนสนิทของคนเหล่านั้นเป็นคนฉลาด ได้กล่าวธรรมเพื่อให้คนเหล่านั้นคลายโศก คนเหล่านั้นเมื่อฟังธรรมแล้ว ได้มอบพวกเด็ก ๆ เหล่านี้แก่พระสมณโคดม
 
พระศาสดาทรงตรวจดูอาสยะของคนเหล่านั้นแล้ว ทรงภาษิตพระคาถาว่า
 
สัตว์ทั้งหลายผู้มีความรู้ว่ามีโทษในธรรมที่หาโทษมิได้ มีปกติเห็นว่าหาโทษมิได้ในธรรมที่มีโทษ เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งมิจฉาทิฏฐิ ย่อมไปสู่ทุคติ
 
สัตว์ทั้งหลายรู้ธรรมที่มีโทษ โดยความเป็นธรรมมีโทษ รู้ธรรมที่หาโทษมิได้ โดยความเป็นธรรมหาโทษมิได้ เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งสัมมาทิฏฐิ ย่อมไปสู่สุคติ
 
ในกาลจบเทศนา คนเหล่าทั้งหมดดำรงอยู่ในสรณะ ๓ (ไตรสรณคมณ์) เมื่อได้ฟังธรรมอื่น ๆ อีก ก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล




อ่าน สาวกเดียรถีย์
อ่าน คาถาธรรมบท นิรยวรรค

 

อ้างอิง
สาวกเดียรถีย์ พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏ เล่มที่ ๔๓ ข้อที่ ๓๒ หน้า ๒๒๐-๒๒๒
ลำดับที่
8

สถานที่

วิหารเชตวัน

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ