Main navigation

เรวดีวิมาน

ว่าด้วย
ผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในเรวดีวิมาน
เหตุการณ์
อุบาสกนันทิยะ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา เป็นผู้บำรุงพระสงฆ์ เมื่อละจากโลกนี้ได้ไปเกิดในวิมานในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

 

นันทิยะอุบาสกเป็นมหาทานบดี เป็นผู้บำรุงพระสงฆ์ ได้สร้างศาลา ๔ หลัง ถวายมหาทานแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เมื่อถวายมหาทานแล้วได้มีปราสาททิพย์ ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ พร้อมด้วยหมู่นางอัปสรพันหนึ่ง ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บังเกิดขึ้นสำหรับนันทิยะ
 
ท่านพระมหาโมคคัลลานะไปเที่ยวเทวจาริกเห็นปราสาทนั้น และได้ทูลถามพระพุทธเจ้าและได้รู้ว่า ทิพยสมบัติย่อมบังเกิดคอยท่าคนที่ทำบุญแล้วแม้ขณะยังอยู่ในมนุษยโลก
 
เมื่อนันทิยะได้ฟังดังนั้นแล้ว เขาถวายทานและกระทำบุญทั้งหลายมากมายยิ่งขึ้น โดยบอกแก่นางเรวดีให้อย่าลืมทำสังฆทานและปากวัตรเพื่อคนอนาถา
 
เมื่อนันทิยะเดินทางค้าขาย นางเรวดีให้ทานอยู่สองสามวันเท่านั้น แล้วงดอาหารสำหรับคนอนาถา ในสถานที่ฉันอาหารของภิกษุนางได้โปรยเมล็ดข้าวสุกและเศษอาหารเกลื่อนกลาด และกล่าวใส่ร้ายภิกษุว่าทิ้งขว้างของที่ถวายด้วยศรัทธา เมื่อนันทิยะกลับมา ได้ทราบความจึงไล่นางเรวดีออกจากเรือน และได้ถวายทานเป็นอันมากแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขต่อไป เมื่อเขาเสียชีวิต ได้ไปบังเกิดในวิมานของตนในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์       
      
ฝ่ายนางเรวดีเลิกทานทุกอย่าง แล้วเที่ยวด่าบริภาษภิกษุสงฆ์ว่า เพราะสมณะเหล่านี้ นางจึงเสื่อมลาภสักการะ ท้าวเวสวัณให้ยักษ์สองตนไปจับนางเรวดีไปนรกทั้งเป็น นิรยบาล ๒ ตนโยนนางลงคูถนรกและมูตนรกที่มีกลิ่นเหม็นฟุ้ง นางต้องตกนรกนับพันปี นายนิรยบาลจะตัดมือ เท้า หู และจมูก และถูกฝูงกาปากเหล็กรุมจิกกินเนื้อนาง เหตุเพราะนางด่าว่าสมณพราหมณ์และวณิพกเหล่าอื่นด้วยคำมุสาวาท
 
นางเรวดีขอร้องให้นำนางกลับไปส่งยังมนุษยโลกแล้วนางจะทำบุญ ให้ทาน การประพฤติธรรมสม่ำเสมอ แต่นายนิรยบาลว่าเมื่อก่อนนางประมาท ตอนนี้จะต้องเสวยผลแห่งกรรมทั้งหลายอันทำไว้เอง
 
ชนเป็นอันมากได้บรรลุโสดาปัตติผลเมื่อได้ฟังพระพุทธองค์ตรัสเล่าและแสดงพระธรรมเรื่องนี้




อ่าน เรวดีวิมาน
 

อ้างอิง
เรวดีวิมาน พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๖ ข้อที่ ๕๒ หน้า ๗๔-๗๘
ลำดับที่
12

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม