แสงธรรมแห่งพระไตรปิฎก

ทิฏฐิต่าง ๆ ในโลกนี้ คือ

โลกเที่ยง-โลกไม่เที่ยง

โลกมีที่สุด-โลกไม่มีที่สุด

ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น- ชีพเป็นอื่น สรีระก็เป็นอื่น

สัตว์ตายแล้วย่อมเป็นอีก-สัตว์ตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก

สัตว์ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่เป็นอีกก็มี- สัตว์ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็ไม่ใช่ ย่อมไม่เป็นอีกก็ไม่ใช่

เมื่อสักกายทิฐิมี ทิฐิเหล่านี้ก็มี เมื่อสักกายทิฐิไม่มี ทิฐิเหล่านี้ก็ไม่มี

สักกายทิฐิย่อมเกิดมีได้เมื่อบุคคล

เห็นรูปโดยความเป็นตน  เห็นตนมีรูป เห็นรูปในตน เห็นตนในรูป  

เห็นเวทนาโดยความเป็นตน เห็นตนมีเวทนา เห็นเวทนาในตน เห็นตนในเวทนา 

เห็นสัญญาโดยความเป็นตน เห็นตนมีสัญญา เห็นสัญญาในตน เห็นตนในสัญญา  

เห็นสังขารโดยความเป็นตน เห็นตนมีสังขาร เห็นสังขารในตน เห็นตนในสังขาร  

เห็นวิญญาณโดยความเป็นตน เห็นตนมีวิญญาณ เห็นวิญญาณในตน เห็นตนในวิญญาณ

สักกายทิฐิย่อมไม่เกิดมีได้เมื่อบุคคล

ไม่เห็นรูปโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีรูป ไม่เห็นรูปในตน ไม่เห็นตนในรูป

ไม่เห็นเวทนาโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีเวทนา ไม่เห็นเวทนาในตน ไม่เห็นตนในเวทนา

ไม่เห็นสัญญาโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีสัญญา ไม่เห็นสัญญาในตน ไม่เห็นตนในสัญญา

ไม่เห็นสังขารโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีสังขาร ไม่เห็นสังขารในตน ไม่เห็นตนในสังขาร

ไม่เห็นวิญญาณโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีวิญญาณ ไม่เห็นวิญญาณในตน ไม่เห็นตนในวิญญาณ

อ่าน อิสิทัตตสูตรที่ ๒