Main navigation

ความสะอาด 10 อย่าง

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของนายจุนทกัมมารบุตร ใกล้เมืองปาวา นายจุนทกัมมารบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค กราบทูลขอให้พระองค์แสดงธรรมเรื่องความสะอาดในวินัยของพระอริยะว่าเป็นประการใด 

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแก่จุนทกัมมารบุตร

ความไม่สะอาดทางกาย ทางวาจา และทางใจ ๑๐ ประการ

ความไม่สะอาดทางกาย ๓ ประการ

- เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ตั้งอยู่ในการฆ่าและการทุบตี ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์มีชีวิต
- เป็นผู้ถือเอาสิ่งของของผู้อื่นที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยจิตเป็นขโมย
- เป็นผู้ประพฤติผิดในกาม คือ เป็นผู้มีความประพฤติล่วงเกินในสตรีที่มีครอบครัวรักษา ธรรมรักษา สตรีที่มีสามีหรือเจ้าของแล้ว

ความไม่สะอาดทางวาจา ๔ ประการ

- เป็นผู้พูดเท็จ อาจเพราะเหตุแห่งตนหรือผู้อื่น หรือเพราะเห็นแก่อามิสเล็กน้อย
- เป็นผู้พูดส่อเสียด เอาคำพูดของฝ่ายหนึ่งไปพูดให้อีกฝ่ายฟัง เพื่อหวังทำลายหรือยุยงส่งเสริมให้คนทั้งหลายแตกสามัคคีกัน ยินดีในความแยกกัน เพลิดเพลินในความแยกกัน
- เป็นผู้พูดคำหยาบ ทำให้ผู้อื่นข้องใจ เดือดร้อน มีความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อสมาธิ
- เป็นผู้พูดเพ้อเจ้อ คือ พูดจาไม่ถูกเวลา พูดคำที่ไม่จริง ไม่มีหลักฐานหรือที่อ้างอิง ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประโยชน์

ความไม่สะอาดทางใจ ๓ ประการ

- เป็นผู้มีความอยากได้ของของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
- เป็นผู้มีจิตคิดปองร้ายต่อสัตว์อื่น
- เป็นผู้มีความเห็นผิดว่า ทานที่บุคคลให้แล้วหรือการบูชาไม่มีผล ไม่มีผลแห่งกรรมดีและชั่ว ไม่มีโลกนี้และโลกหน้า ไม่มีมารดาบิดา สัตว์ผู้เป็นอุปปาติกะ  สมณพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม

บุคคลผู้ประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้  แม้จะทำประการใดก็เป็นผู้ไม่สะอาดอยู่นั่นเองเพราะอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ เป็นความไม่สะอาดและเป็นตัวทำให้ไม่สะอาดด้วย  เพราะเหตุแห่งการประกอบอกุศลกรรมบท นรกจึงปรากฏ การเกิดเป็นเดรัจฉานจึงปรากฏ เปรตวิสัยจึงปรากฏ หรือทุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง

ความสะอาดทางกาย ทางวาจา และทางใจ ๑๐ ประการ

ความสะอาดทางกาย ๓ ประการ

- เป็นผู้ละ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ มีความละอาย เอ็นดู กรุณาหวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งปวง
- เป็นผู้ละ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ ไม่ถือเอาของหรือทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยจิตเป็นขโมย
- เป็นผู้ละ เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม ไม่ประพฤติล่วงเกินในสตรีที่มีครอบครัวรักษา ธรรมรักษา สตรีที่มีสามีหรือเจ้าของแล้ว

ความสะอาดทางวาจา ๔ ประการ

- เป็นผู้ละการพูดเท็จ เพราะเหตุแห่งตนหรือผู้อื่น หรือเพราะเห็นแก่อามิสเล็กน้อย
- เป็นผู้ละคำส่อเสียด กล่าววาจาที่ส่งเสริมทำให้คนพร้อมเพรียงกัน ไม่เอาคำพูดของฝ่ายหนึ่งไปพูดให้อีกฝ่ายฟังเพื่อหวังทำลายสามัคคี
- เป็นผู้ละคำหยาบ พูดในสิ่งที่ไม่มีโทษ ไพเราะหู คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ
- เป็นผู้ละคำเพ้อเจ้อ พูดถูกเวลา พูดแต่คำที่เป็นจริง มีหลักฐานอ้างอิง มีประโยชน์

ความสะอาดทางใจ ๓ ประการ

- เป็นผู้ไม่มีความอยากได้ของของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
- เป็นผู้ไม่มีจิตคิดปองร้ายต่อสัตว์อื่น ไม่มีเวร ไม่มีความมุ่งร้ายกัน อยากให้สัตว์อื่นมีสุข
- เป็นผู้มีความเห็นชอบว่า ทานที่บุคคลให้แล้วหรือการบูชามีผล มีผลแห่งกรรมดีและชั่ว มีโลกนี้และโลกหน้า มีมารดาบิดา สัตว์ผู้เป็นอุปปาติกะ  สมณพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม

บุคคลผู้ประกอบด้วยกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ แม้จะทำประการใดก็เป็นผู้สะอาดอยู่นั่นเองเพราะกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ เป็นความสะอาดและเป็นตัวทำให้สะอาดด้วย เพราะเหตุแห่งการประกอบกุศลกรรมบท เทวดา มนุษย์ ย่อมปรากฏ หรือสุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง

หลังจากฟังธรรมจบ จุนทกัมมารบุตรขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ประกาศตนเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต

อ้างอิง
พระสุตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ ข้อที่ [๑๕] จุนทสูตร
ลำดับที่
22

สถานที่

เมืองปาวา

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม