Main navigation

โสมนัสสจริยา

ว่าด้วย
พระจริยาวัตรของโสมนัสสกุมาร
เหตุการณ์
การบำเพ็ญเนกขัมมบารมีของพระโพธิสัตว์เมื่อทรงเป็นโสมนัสสกุมาร

เมื่อทรงเป็นพระราชบุตรนามว่าโสมนัส เป็นที่รัก ที่ปรารถนาของพระมารดาพระบิดา อยู่ในอินทปัตถนคร เป็นผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยคุณธรรม มีปฏิภาณเฉียบแหลม เคารพนบนอบต่อผู้เจริญ มีหิริ และฉลาดในสังคหธรรม

ครั้งนั้น มีดาบสโกงผู้หนึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระราชา ดาบสนั้นปลูกต้นผลไม้ ดอกไม้และผัก เก็บขายเลี้ยงชีวิต ดาบสโกงผู้นี้ไม่มีธรรมของสัตบุรุษ ปราศจากความเป็นสมณะ ละหิริและธรรมขาว

เพราะเหตุแห่งการเลี้ยงชีวิตและโจรในปัจจันตชนบทกำเริบขึ้น พระราชบิดาเมื่อจะเสด็จไปปราบความกำเริบ ตรัสสั่งว่า อย่าประมาทในชฎิลผู้มีความเพียรอันแรงกล้า ท่านจะอนุวัตรตามความปรารถนา ด้วยว่าชฎิลนั้นเป็นผู้ให้ความสำเร็จความปรารถนาทั้งปวง

พระโพธิสัตว์ทรงไปสู่ที่บำรุงชฎิลนั้นแล้วกล่าวว่า ท่านสบายดีดอกหรือ หรือว่าจะให้นำเอาอะไรมา ดาบสโกงนั้นอาศัยมานะจึงโกรธ จะให้พระราชาฆ่าพระโพธิสัตว์เสียในวันนี้ หรือจะให้ขับไล่เสียจากแว่นแคว้น

พระราชาทรงปราบปัจจันตชนบทสงบแล้ว ได้ตรัสถามชฎิลโกงว่า สบายดีหรือ สักการะสัมมานะยังเป็นไปแก่พระผู้เป็นเจ้าหรือ

ชฎิลโกงนั้นกราบทูลแด่พระราชาเหมือนว่าพระราชกุมารให้ฉิบหาย

พระเจ้าแผ่นดินสดับดังนั้น ทรงบังคับตัดศีรษะพระโพธิสัตว์เสีย สับฟันบั่นออกเป็น ๔ ท่อน ทิ้งไว้ในท่ามกลางถนนให้คนเห็นว่า นั่นเป็นผลของคนเบียดเบียนชฎิล พวกโจรฆาตก็ใจดุร้ายไม่มีกรุณาเพราะรับสั่งบังคับ ก็ฉุดคร่านำพระโพธิสัตว์ไป

พระโพธิสัตว์ได้กล่าวแก่ผู้กำลังผูกมัดว่า ให้พาท่านไปเฝ้าพระราชา ราชกิจของท่านมีอยู่

เมื่อได้เฝ้าพระราชาแล้ว พระโพธิสัตว์ทูลให้ทรงเข้าพระทัย พระบิดาขอขมาพระโพธิสัตว์ ณ ที่นั้นแล้ว ได้พระราชทานราชสมบัติอันใหญ่หลวงแก่ท่าน

เมื่อพระโพธิสัตว์ทำลายความมืดมัวเมาแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต

ท่านจะเกลียดราชสมบัติอันใหญ่หลวงก็หามิได้ จะเกลียดกามโภคสมบัติก็หามิได้ แต่พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รัก จึงสละราชสมบัติเสีย

 

อ่าน โสมนัสสจริยา

อ้างอิง
โสมนัสสจริยา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๓๓ ข้อที่ ๒๒ หน้า ๓๙๓-๓๙๕
ชุดที่
ลำดับที่
23

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ