Main navigation

พระเชนตปุโรหิตปุตตเถระ

ว่าด้วย
ผู้ละมานะเพราะพบเห็นพระพุทธองค์
เหตุการณ์
บุพกรรมและคาถาสุภาษิตของพระเชนตปุโรหิตปุตตเถระ นายเชนตะเป็นผู้มัวเมาชาติและมานะ เมื่อได้ฟังพระผู้มีพระภาคแสดงธรรม ได้บรรลุโสดาบัน ออกบรรพชาบำเพ็ญจนถึงพระอรหัตผล

พระเชนตปุโรหิตปุตตเถระบำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ  ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดเป็นบุตรของปุโรหิตของพระเจ้าโกศล ในนครสาวัตถี มีนามว่าเชนตะ


พอจริญวัยก็มัวเมาเพราะชาติ เมาในโภคะ ความเป็นใหญ่ และรูป ดูหมิ่นคนอื่น ไม่ทำความยำเกรงแม้แก่ท่านผู้ตั้งอยู่ในฐานะที่ควรเคารพ มีมานะจัด เที่ยวไป

วันหนึ่ง นายเชนตะนั้นได้เห็นพระศาสดากำลังแสดงธรรมอยู่ท่ามกลางบริษัทหมู่ใหญ่ เมื่อจะเข้าไปเฝ้า จึงคิดว่า ถ้าพระผู้มีพระภาคตรัสทักตนก่อน ตนก็จักทักทาย ถ้าไม่ตรัสทัก ก็จะไม่ทัก แล้วจึงเข้าไปเฝ้ายืนอยู่

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ตรัสทักก่อน ก็ไม่ทักทาย เพราะถือตัว แสดงอาการจะเดินไป

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสว่า  พราหมณ์ ใครในโลกนี้มีมานะ ไม่ดีเลย ผู้ใดมาด้วยประโยชน์ใด ผู้นั้นพึงเพิ่มพูนประโยชน์นั้น

นายเชนตะเกิดความเลื่อมใสยิ่งที่พระพุทธองค์รู้จิตใจของตน จึงซบศีรษะลงที่พระบาททั้งสอง แล้วทูลถามว่า พราหมณ์ไม่ควรทำมานะในใคร ควรมีความเคารพในใคร พึงยำเกรงใคร บูชาใครด้วยดีแล้ว จึงเป็นการดี

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงธรรมว่า

ไม่ควรทำมานะในมารดา บิดา พี่ชาย และในอาจารย์เป็นที่ ๔ พึงมีความเคารพในบุคคลเหล่านั้น พึงยำเกรงบุคคลเหล่านั้น บูชาบุคคลเหล่านั้น ด้วยดีแล้วจึงเป็นการดี
บุคคลพึงทำลายมานะเสีย ไม่ควรมีความกระด้างในพระอรหันต์ผู้เย็นสนิท ผู้ทำกิจเสร็จแล้ว หาอาสวะมิได้ พึงนอบน้อมท่านเหล่านั้นผู้ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า

เขาได้บรรลุโสดาบันด้วยเทศนานี้ จึงออกบวช บำเพ็ญวิปัสสนา แล้วได้บรรลุพระอรหัต

เมื่อพระเชนตปุโรหิตปุตตเถระจะพยากรณ์พระอรหัตผลโดยมุ่งระบุข้อปฏิบัติของตน จึงได้กล่าวว่า

เราเป็นผู้เมาด้วยความเมาเพราะชาติสกุล ด้วยโภคะและอิสริยยศ ด้วยทรวดทรง ผิวพรรณและรูปร่าง และเป็นผู้เมาด้วยความเมาอย่างอื่น เราจึงไม่สำคัญใคร ๆ ว่าเสมอตน และยิ่งกว่าตน

เราถูกอติมานะกำจัดแล้ว เป็นคนโง่เขลา มีใจกระด้าง ถือตัว มีมานะจัด ไม่เอื้อเฟื้อ ไม่กราบไหว้ใคร แม้เป็นมารดาหรือบิดา แม้พี่ชายหรือพี่สาว และแม้สมณพราหมณ์เหล่าอื่นที่โลกสมมติว่าเป็นครูบาอาจารย์

เราเห็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ผู้เลิศประเสริฐสูงสุดกว่าสารถีทั้งหลาย ผู้รุ่งเรืองดุจพระอาทิตย์ อันหมู่ภิกษุสงฆ์ห้อมล้อมแล้ว จึงละทิ้งมานะและความมัวเมา มีใจผ่องใส ถวายบังคมพระองค์ผู้สูงสุดกว่าสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า

การถือตัวว่าดีกว่าเขา ว่าเลวกว่าเขา และว่าเสมอเขา เราละแล้ว ถอนขึ้นแล้วด้วยดี

การถือตัวว่าเป็นเรา  เป็นเขา เราตัดขาดแล้ว การถือตัวต่างๆ ทั้งหมด เรากำจัดได้แล้ว

 

 

อ่าน เชนตปุโรหิตปุตตเถรคาถา
 

 

 

 

อ้างอิง
เชนตปุโรหิตปุตตเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๖/๓๕๕/๒๘๓
ลำดับที่
8

สถานที่

นครสาวัตถี

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ