Main navigation

ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก

เหตุการณ์
พระศาสดาทรงปรารภบรรพชิต ๓ รูป ผู้แม้บวชแล้ว ก็ไม่อาจพรากจากกันได้

มารดาบิดาตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี มีบุตรคนเดียว วันหนึ่ง บุตรนั้นฟังธรรมกถาของพวกภิกษุที่นิมนต์มาในเรือน ทำอนุโมทนาอยู่ อยากจะบวช จึงขอบวชกะมารดาบิดา มารดาบิดาไม่อนุญาต เขาจึงมีความคิดว่าจะหนีไปข้างนอกแล้วบวชเสีย
 
เมื่อบิดาหรือมารดาของเขาจะออกไปข้างนอก ก็มอบหมายกับอีกฝ่ายหนึ่งให้พึงรักษาบุตรนี้ไม่ให้หนีไปบวช วันหนึ่ง บิดาของเขาไปข้างนอก บุตรของนางได้ลวงมารดาว่าจะไปถ่ายอุจจาระแล้วหนีไป เขาหนีไปสู่วิหาร เข้าไปหาภิกษุทั้งหลาย อ้อนวอนขอบวช แล้วได้บรรพชาในสำนักของภิกษุเหล่านั้น
 
เมื่อบิดาของเขากลับมา ค้นหาลูกและไม่เห็นเขา จึงไปที่วิหาร เห็นบุตรบวชแล้ว ได้คร่ำครวญร้องไห้ แล้วคิดว่า ก็เมื่อบุตรบวชแล้ว เขาจักทำอะไรในเรือนได้ จึงขอบวชด้วย ฝ่ายมารดาออกมาตามบุตรและสามี เมื่อเห็นทั้งสองคนบวชแล้วจึงคิดว่า ประโยชน์อะไรด้วยเรือนของตน ในเมื่อสามีและบุตรได้บวชแล้ว นางก็ไปสู่สำนักภิกษุณี แล้วบวช
 
ชนทั้งสามแม้บวชแล้ว ก็ยังคลุกคลีกัน ไม่อาจจะแยกกันอยู่ได้ ปล่อยวันให้ล่วงไปทั้งในวิหาร ทั้งในสำนักภิกษุณี เหตุนั้น ทั้งพวกภิกษุ ทั้งพวกภิกษุณี จึงเป็นอันถูกเบียดเบียน

ต่อมาวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลการกระทำของชนทั้งสามนั้นแด่พระศาสดา
 
พระศาสดาตรัสเรียกชนทั้งสามมาสอบถาม แล้วทรงกล่าวว่า นั่นไม่ใช่ความเพียรของพวกบรรพชิต ตรัสว่า
 
การทำอย่างนี้ตั้งแต่เวลาที่พวกเธอบวช ไม่ควร เพราะว่าการไม่เห็นสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก และการเห็นสัตว์และสังขารอันไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์โดยแท้ เหตุนั้น การทำบรรดาสัตว์และสังขารทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เป็นที่รัก หรือไม่ให้เป็นที่รัก ย่อมไม่สมควร
 
ดังนี้แล้ว ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า
 
บุคคลประกอบตนไว้ในสิ่งอันไม่ควรประกอบ และไม่ประกอบไว้ในสิ่งอันควรประกอบ ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์ ถือเอาอารมณ์อันเป็นที่รัก ย่อมทะเยอทะยานต่อบุคคลผู้ตามประกอบตน  บุคคลอย่าสมาคมกับสัตว์และสังขารทั้งหลายอันเป็นที่รัก (และ) อันไม่เป็นที่รักในกาลไหน ๆ (เพราะว่า) การไม่เห็นสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก และการเห็นสัตว์และสังขารอันไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์
 
เพราะเหตุนั้น บุคคลไม่พึงกระทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก เพราะความพรากจากสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก เป็นการต่ำทราม กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลายของเหล่าบุคคลผู้ไม่มีอารมณ์อันเป็นที่รัก และไม่เป็นที่รัก ย่อมไม่มี
 
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น
 
ฝ่ายชนทั้งสามนั้นคิดว่า ไม่อาจพรากจากกันได้ ดังนี้แล้ว ได้สึกไปสู่เรือนตามเดิม




อ่าน บรรพชิต ๓ รูป
อ่าน คาถาธรรมบท ปิยวรรค

 

อ้างอิง
บรรพชิต ๓ รูป คาถาธรรมบท ปิยวรรค พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏ เล่มที่ ๔๒ หน้า ๓๙๑-๓๙๖
ลำดับที่
27

สถานที่

วิหารเชตวัน

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ