Main navigation

ทรงแสดงรัตนสูตร

เหตุการณ์
ชาวเมืองเวสาลีถูกภัย ๓ อย่างคือ ทุพภิกขภัย อมนุสสภัย และโรคภัยเบียดเบียน เจ้าลิจฉวีจึงอัญเชิญพระพุทธเจ้าให้เสด็จมายังเมืองเวสาลีเพื่อความสวัสดีของชาวเมือง เมื่อภัยเหล่านั้นสงบลง พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงรัตนสูตรอีกตลอดเจ็ดวันที่เมืองเวสาลี เมื่อทรงแสดงพระสูตรจบ สัตว์แปดหมื่นสี่พันได้บรรลุธรรม

ในการเสด็จไปและกลับเมืองเวสาลี พระเจ้าพิมพิสารและเจ้าเมืองลิจฉวี ได้เตรียมรับเสด็จพระพุทธเจ้า โดยทำพื้นที่ให้สม่ำเสมอ ในหนทาง ๘ โยชน์ทั้งฝั่งสองฝั่งแม่น้ำคงคา

ได้เกลี่ยทรายลงลาดดอกไม้มีสีต่าง ๆ โดยส่วนสูงประมาณเพียงเข่า

พวกพระยานาคทำการบูชาพระศาสดา ให้น้ำในแม่น้ำคงคาดาดาษ ด้วยดอกปทุม ๕ สี

เทวดาทั้งหลายยกฉัตรซ้อน ๆ กันขึ้นตลอดถึงอกนิฏฐภพ ห้องจักรวาลทั้งสิ้น เกิดเป็นเพียงดังว่ามีเครื่องประดับเป็นอันเดียว และมีมหรสพเป็นอันเดียว

เมื่อพระศาสดาเสด็จขึ้นจากเรือเหยียบฝั่งแม่น้ำ เกิดฝนโบกขรพรรษตก น้ำไหลพัดพาเอาซากศพทั้งปวงให้เข้าไปในแม่น้ำคงคา 

ท้าวสักกเทวราชพร้อมหมู่เทวดาแวดล้อมได้เสด็จมา อมนุษย์ทั้งหลายหนีไปโดยมากเพราะเทวดาทั้งหลายผู้มีศักดิ์ใหญ่ได้มาประชุมกัน

พระศาสดาทรงให้พระอานนท์เรียนรัตนสูตรและทำพระปริตร พระอานนท์นำบาตรสำเร็จด้วยศิลาของพระศาสดาตักน้ำ ระลึกถึงพระพุทธคุณของพระตถาคตเหล่านั้นทั้งหมด ตั้งความเพียรถึงพระบารมี ๓๐ ถ้วน แล้วเข้าไปยังพระนคร เที่ยวทำพระปริตรในระหว่างกำแพง น้ำมนต์แห่งพระปริตรมีอำนาจมากทำให้พวกอมนุษย์ทั้งหลาย หนีออกไปจากพระนคร และทำให้ประชาชนทั้งหลายหายโรค

พระศาสดาได้ทรงแสดงรัตนสูตรและเมื่อจบเทศนา การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่สัตว์แปดหมื่นสี่พัน ภัยทั้งปวงสงบลง

พระพุทธองค์ตรัสว่าเครื่องบูชาและสักการะต่างๆนี้ มิได้บังเกิดขึ้นด้วยพุทธานุภาพ หรือด้วยอานุภาพนาค เทวดา หรือพรหม หากเกิดด้วยอานุภาพแห่งการบริจาคของพระองค์ในอดีต

ทรงถอนหญ้าในลานพระเจดีย์ของพระปัจเจกพุทธะชื่อสุสิมะ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ชนทั้งหลายจึงทำหนทาง ๘ โยชน์ให้ปราศจากตอและหนาม ทำให้สะอาด มีพื้นสม่ำเสมอ

ทรงเกลี่ยทรายลงในลานพระเจดีย์ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ชนทั้งหลายจึงเกลี่ยทรายลงในหนทาง ๘ โยชน์

ทรงทำการบูชาด้วยดอกไม้ป่าที่พระสถูป ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ชนทั้งหลายจึงโปรยดอกไม้สีต่าง ๆ ลงในหนทาง ๘ โยชน์ น้ำในคงคาในที่ประมาณโยชน์หนึ่งจึงดาดาษไปด้วยดอกปทุม ๕ สี

ทรงประพรมพื้นที่ในลานพระเจดีย์ด้วยน้ำในลักจั่น ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ฝนโบกขรพรรษจึงตกลงในเมืองเวสาลี

ทรงยกธงแผ่นผ้าขึ้นและผูกฉัตรไว้บนพระเจดีย์ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ห้องจักรวาลทั้งสิ้น จึงเป็นราวกะว่ามีมหรสพเป็นอันเดียวกัน ด้วยธงชัย ธงแผ่นผ้า และฉัตรซ้อน ๆ กันเป็นต้นตลอดถึงอกนิฏฐภพ

ผู้มีปัญญา เมื่อเห็นสุขอันไพบูลย์ก็พึงสละสุขพอประมาณเสีย จึงจะได้พบสุขอันไพบูลย์

 

----------

รัตนสูตร

ภูตเหล่าใด ประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี ขอหมู่ภูตทั้งปวงจงเป็นผู้มีใจดี และจงฟังภาษิตโดยเคารพ

ดูกรภูตทั้งปวง เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟัง ขอจงแผ่เมตตาจิตในหมู่มนุษย์ มนุษย์เหล่าใด นำพลีกรรมไปทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาทรักษามนุษย์เหล่านั้น ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้น เสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลย พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระศากยมุนีมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใดเป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สำรอกกิเลส เป็นอมฤตธรรมอันประณีต ธรรมชาติอะไร ๆ เสมอด้วยพระธรรมนั้นย่อมไม่มี ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้  

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญแล้วซึ่งสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด บัณฑิตทั้งหลายกล่าวซึ่งสมาธิใด ว่าให้ผลในลำดับ สมาธิอื่นเสมอด้วยสมาธินั้นย่อมไม่มี ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้  

บุคคล ๘ จำพวก ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้นควรแก่ทักษิณาทาน เป็นสาวกของพระตถาคต ทานที่บุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระอริยบุคคลเหล่าใด ในศาสนาของพระโคดมประกอบดีแล้ว ด้วยกายประโยคและวจีประโยคอันบริสุทธิ์ มีใจมั่นคง เป็นผู้ไม่มีความห่วงใยในกายและชีวิต พระอริยบุคคลเหล่านั้น บรรลุอรหัตผลที่ควรบรรลุ หยั่งลงสู่อมตนิพพาน ได้ซึ่งความดับกิเลสโดยเปล่า เสวยผลอยู่ สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

เสาเขื่อนที่ฝังลงดิน ไม่หวั่นไหวเพราะลมทั้งสี่ทิศ ฉันใด ผู้ใดพิจารณาเห็นอริยสัจทั้งหลาย เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นสัตบุรุษ ผู้ไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรมมีอุปมาฉันนั้น สังฆรัตนะนี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระอริยบุคคลเหล่าใดทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจทั้งหลาย  อันพระศาสดาทรงแสดงดีแล้ว ด้วยปัญญาอันลึกซึ้ง พระอริยบุคคลเหล่านั้นยังเป็นผู้ประมาทอย่างแรงกล้าอยู่ก็จริง ถึงกระนั้น ท่านย่อมไม่ยึดถือเอาภพที่ ๘ สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

สักกายทิฏฐิและวิจิกิจฉา หรือแม้สีลัพพตปรามาสอันใดอันหนึ่งยังมีอยู่ ธรรมเหล่านั้นอันพระอริยบุคคลนั้นละได้แล้ว พร้อมด้วยความถึงพร้อมแห่งการเห็นนิพพานทีเดียว อนึ่ง พระอริยบุคคลเป็นผู้พ้นแล้วจากอบายทั้ง ๔ ทั้งไม่ควรเพื่อจะทำอภิฐานทั้ง ๖ (คือ อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีต) สังฆรัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระอริยบุคคลนั้นยังทำบาปกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ก็จริง ถึงกระนั้น ท่านไม่ควร เพื่อจะปกปิดบาปกรรมอันนั้น ความที่บุคคลผู้มีธรรมเครื่องถึงนิพพานอันตนเห็นแล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อปกปิดบาปกรรมนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พุ่มไม้ในป่ามียอดอันบานแล้วในเดือนต้นในคิมหันตฤดู ฉันใด พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐยิ่ง  เป็นเครื่องให้ถึงนิพพานเพื่อประโยชน์เกื้อกูลมีอุปมา ฉันนั้น พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐทรงทราบธรรมอันประเสริฐ ทรงประทานธรรมอันประเสริฐ ทรงนำมาซึ่งธรรมอันประเสริฐ ไม่มีผู้ยิ่งไปกว่า ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

พระอริยบุคคลเหล่าใดผู้มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป มีกรรมเก่าสิ้นแล้ว ไม่มีกรรมใหม่เครื่องสมภพ พระอริยบุคคลเหล่านั้นมีพืชอันสิ้นแล้ว มีความพอใจไม่งอกงามแล้ว เป็นนักปราชญ์ ย่อมนิพพาน เหมือนประทีปอันดับไป ฉะนั้น สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

ภูตเหล่าใด ประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใด ประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธเจ้าผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใด ประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรม อันไปแล้วอย่างนั้น อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลาย จงนมัสการพระสงฆ์ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้

 

อ่าน รัตนสูตร อรรถกถา อรรถกถาคาถาธรรมบท ปกิณณกวรรคที่ ๒๑

อ้างอิง
รัตนสูตร และอรรถกถา พระไตรปิฎกฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๗ หน้า ๓-๖ และอรรถกถา คาถาธรรมบท ปกิณณกวรรคที่ ๒๑
ลำดับที่
9

สถานที่

นครเวสาลี

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ