Main navigation

โกกาลิกภิกษุอาฆาตพระอัครสาวก

เหตุการณ์
โกกาลิกภิกษุกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นผู้มีความปรารถนาลามก ตกอยู่ในอำนาจแห่งความปรารถนาลามก

เมื่อโกกาลิกภิกษุกราบทูลพระพุทธจ้าว่า พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นผู้มีความปรารถนาลามก ตกอยู่ในอำนาจแห่งความปรารถนาลามก พระผู้มีพระภาคทรงเตือนโกกาลิกะไม่ให้กล่าวอย่างนั้นและให้ยังจิตให้เลื่อมใสในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ทั้งสองมีศีลเป็นที่รัก ถึง ๓ ครั้ง 

โกกาลิกภิกษุก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ถึงพระผู้มีพระภาคทรงชักนำให้จงใจเชื่อ ให้เลื่อมใส แต่พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นผู้มีความปรารถนาลามก

พระพุทธเจ้าเตือนโกกาลิกะอย่าได้กล่าวอย่างนั้นและให้ยังจิตให้เลื่อมใสในสารีบุตรและโมคคัลลานะ ทั้งสองมีศีลเป็นที่รัก อีกสามครั้ง 

เมื่อโกกาลิกภิกษุลุกจากไป ก็ได้เกิดตุ่มขึ้นบนผิวกาย ตุ่มนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย จนโกกาลกภิกษุตายไปด้วยโรคนั้น แล้วไปเกิดยังปทุมนรกเพราะจิตคิดอาฆาตในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ

คืนนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมไปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วกราบทูลว่าโกกาลิกภิกษุมรณภาพแล้วไปเกิดในในปทุมนรก เพราะจิตคิดอาฆาตในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ

วันรุ่งขึ้นพระพุทธเจ้าก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับภิกษุทั้งหลายตามที่ท้าวสหัมบดีพรหมได้กราบทูล

ภิกษุรูปหนึ่งก็ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า อายุในปทุมนรกนานเพียงใด

พระพุทธเจ้าตรัสว่าอายุในปทุมนรกนานนัก การนับประมาณอายุในปทุมนรกว่า เท่านี้ปี เท่านี้ร้อยปี เท่านี้พันปี หรือว่า เท่านี้แสนปี ไม่ใช่ทำได้ง่าย และได้เปรียบเทียบให้ฟังว่า

เปรียบเหมือนเกวียนที่บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศล เมื่อล่วงไปได้ร้อยปี พันปี แสนปี บุรุษพึงหยิบเมล็ดงาขึ้นจากเกวียนนั้น ออกทิ้งเมล็ดหนึ่ง ๆ เกวียนที่บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศลนั้น จะพึงหมดไปเร็วเสียกว่า  อัพพุทนรกหนึ่งจะยังไม่ถึงความสิ้นไปได้เลย 

๒๐ อัพพุทนรกเป็นหนึ่งนิรัพพุทนรก  
๒๐ นิรัพพุทนรกเป็นหนึ่งอัพพนรก  
๒๐ อัพพนรกเป็นหนึ่งอหหนรก  
๒๐ อหหนรกเป็นหนึ่งอฏฏนรก  
๒๐ อฏฏนรกเป็นหนึ่งกุมุทนรก  
๒๐ กุมุทนรกเป็นหนึ่งโสคันธิกนรก  
๒๐ โสคันธินรกเป็นหนึ่งอุปลกนรก  
๒๐ อุปลกนรกเป็นหนึ่งปุณฑรีกนรก  
๒๐ ปุณฑรีกนรกเป็นหนึ่งปทุมนรก อย่างนี้  

แล้วทรงกล่าวคาถาประพันธ์ต่อไปว่า

ก็วาจาหยาบเกิดในปากของบุรุษแล้ว เป็นเหตุตัดรอนตนเองของผู้กล่าวคำทุภาษิต

ผู้ใดสรรเสริญคนที่ควรนินทา หรือนินทาคนที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมก่อโทษเพราะปาก ย่อมไม่ได้ความสุขเพราะโทษนั้น

การแพ้ด้วยทรัพย์เพราะเล่นการพนันเป็นโทษเพียงเล็กน้อย โทษของผู้ที่ยังใจให้ประทุษร้ายในผู้ปฏิบัติดีนี้เป็นโทษมากกว่า

บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้แล้วติเตียนพระอริยะเจ้า ย่อมเข้าถึงนรกตลอดกาลประมาณด้วยการนับปี ๑๐๐,๐๐๐ นิรัพพุทะและ ๔๐ อัพพุทะ

ผู้กล่าวคำเท็จย่อมเข้าถึงนรก ผู้ทำกรรมอันลามกแล้วกล่าวว่าไม่ได้ทำ ก็ย่อมเข้าถึงนรกอย่างเดียวกัน

แม้คนทั้งสองนั้นเป็นมนุษย์มีกรรมอันเลวทรามละไปแล้ว ย่อมเป็นผู้เสมอกันในโลกเบื้องหน้า

ผู้ใดประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้เป็นบุรุษหมดจด ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน บาปย่อมกลับมาถึงผู้เป็นพาลนั้นเอง

ผู้ที่ประกอบเนืองๆ ใความโลภ ไม่มีศรัทธา กระด้าง ไม่รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความตระหนี่ ประกอบเนืองๆ ในคำส่อเสียด ย่อมบริภาษผู้อื่นด้วยวาจา

ผู้มีปากเป็นหล่ม กล่าวคำอันไม่จริง ผู้ไม่ประเสริฐ ผู้กำจัดความเจริญ ผู้ลามก ผู้กระทำความชั่ว ผู้เป็นบุรุษในที่สุด มีโทษ เป็นอวชาต  อย่าได้พูดมากในที่นี้ อย่าเป็นสัตว์นรก ย่อมเกลี่ยธุลีคือ กิเลส ลงในตน เพื่อกรรมมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล

ผู้ทำกรรมหยาบ ติเตียนสัตบุรุษ ประพฤติทุจริตเป็นอันมากแล้ว ย่อมไปสู่มหานรกสิ้นกาลนาน

กรรมของใครๆ ย่อมไม่หายไปได้เลย บุคคลได้รับกรรมนั้น เป็นเจ้าของแห่งกรรมนั้น คนเขลาผู้ทำกรรมหยาบ ย่อมเห็นความทุกข์ในตนในปรโลก

ผู้ทำกรรมหยาบย่อมเข้าถึงสถานที่อันนายนิรยบาลนำขอเหล็กมา ย่อมเข้าถึงหลาวเหล็กอันคมกริบและย่อมเข้าถึงก้อนเหล็กแดงโชติช่วง อันสมควรแก่กรรมที่ตนทำไว้อย่างนั้น

สัตว์นรกทั้งหลายจะพูดก็พูดไม่ได้  จะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่ได้ที่ต้านทานเลย นายนิรยบาลลากขึ้นภูเขาถ่านเพลิง สัตว์นรกนั้นนอนอยู่บนถ่านเพลิงอันลาดไว้ ย่อมเข้าไปสู่กองไฟอันลุกโพลง พวกนายนิรยบาลเอาข่ายเหล็กพัน ตีด้วยฆ้อนเหล็กในที่นั้น สัตว์นรกทั้งหลายย่อมไปสู่โรรุวนรกที่มืดทึบ ความมืดทึบนั้นแผ่ไปเหมือนกลุ่มหมอก

ก็ที่นั้น สัตว์นรกทั้งหลาย ย่อมเข้าไปสู่หม้อเหล็กอันไฟลุกโพลง ลอยฟ่องอยู่ ไหม้อยู่ในหม้อเหล็กนั้นอันไฟลุกโพลงสิ้นกาลนาน

ผู้ทำกรรมหยาบจะไปสู่ทิศใด ๆ ก็หมกไหม้อยู่ในหม้อเหล็กอันเปื้อนด้วยหนองและเลือดในทิศนั้น ๆ ลำบากอยู่ในหม้อเหล็กนั้น ผู้ทำกรรมหยาบหมกไหม้อยู่ในน้ำอันเป็นที่อยู่ของหมู่หนอน ในหม้อเหล็กนั้น ๆ แม้ฝั่งเพื่อจะไปก็ไม่มีเลย เพราะกะทะครอบอยู่โดยรอบมิดชิดในทิศทั้งปวง และยังมีป่าไม้มีใบเป็นดาบคม สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าไปสู่ป่าไม้ ถูกดาบใบไม้ตัดหัวขาด พวกนายนิรยบาล เอาเบ็ดเกี่ยวลิ้นออกแล้ว ย่อมเบียดเบียนด้วยการดึงออกมา

สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าถึงแม่น้ำด่างอันเป็นหล่ม ย่อมเข้าถึงคมมีดโกนอันคมกริบ สัตว์นรกทั้งหลายผู้กระทำบาป เป็นผู้เขลา ย่อมตกลงไปบนคมมีดโกนนั้นเพราะได้กระทำบาปไว้ ก็สุนัขดำ สุนัขด่าง และสุนัขจิ้งจอก ย่อมรุมกัดกินสัตว์นรกทั้งหลาย ผู้ร้องไห้อยู่ที่นั้น ฝูงกาดำ แร้ง นกตะกรุม และกาไม่ดำ ย่อมรุมกันจิกกิน คนผู้ทำกรรมหยาบ ย่อมเห็นความเป็นไปในนรกนี้ยากหนอ

เพราะฉะนั้น นรชนพึงเป็นผู้ทำกิจที่ควรทำในชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ และไม่พึงประมาท เกวียนบรรทุกงา ผู้รู้ทั้งหลายนับแล้วนำเข้าไปเปรียบในปทุมนรก เป็น ๕๑,๒๐๐ โกฏิ นรกเป็นทุกข์ สัตว์ทั้งหลายผู้ทำกรรมหยาบ พึงอยู่ในนรกแม้นั้น ตลอดกาลนานเพียงนั้น

เพราะฉะนั้น บุคคลพึงกำหนดรักษาวาจา ใจ ให้เป็นปรกติในผู้สะอาด มีศีลเป็นที่รักและมีคุณดีงามทั้งหลาย

 

อ่าน โกกาลิกสูตร

 

อ้างอิง
โกกาลิกสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๓๘๔-๓๘๗ หน้า ๓๔๒-๓๔๖
ลำดับที่
31

สถานที่

วิหารเชตวัน

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ