Main navigation
จะพึงทราบบุคคลว่า ควรพูดหรือไม่ควรพูด ก็ด้วยการประชุมสนทนากัน

ผู้ไม่ควรพูด

ถ้าบุคคลถูกถามปัญหาแล้ว  
-  ไม่เฉลยโดยส่วนเดียว ซึ่งปัญหาที่ควรเฉลยโดยส่วนเดียว
-  ไม่จำแนกเฉลย ซึ่งปัญหาที่ควรจำแนกเฉลย
-  ไม่สอบถามเฉลย ซึ่งปัญหาที่ควรสอบถามเฉลย
-  ไม่หยุดปัญหาที่ควรหยุด
เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา ไม่ดำรงอยู่ในฐานะและอฐานะ ไม่ดำรงอยู่ในปริกัป ไม่ดำรงอยู่ในวาทะที่ควรรู้ทั่วถึง ไม่ดำรงอยู่ในปฏิปทา เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ ไม่ควรพูด 

ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา พูดกลบเกลื่อน พูดนอกเรื่องนอกราว แสดงความโกรธ ความขัดเคืองและความเสียใจให้ปรากฏ เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

ถ้าบุคคล ถูกถามปัญหา พูดฟุ้งเฟ้อ พูดวุ่นวาย หัวเราะเยาะ คอยจับผิด เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรพูด

ผู้ควรพูด 

แต่ถ้าบุคคลถูกถามปัญหา
-  ย่อมเฉลยโดยส่วนเดียว ซึ่งปัญหาที่ควรเฉลยโดยส่วนเดียว
-  ย่อมจำแนกเฉลย ซึ่งปัญหาที่ควรจำแนกเฉลย
-  ย่อมสอบถามเฉลย ซึ่งปัญหาที่ควรสอบถามเฉลย
-  ย่อมหยุดปัญหาที่ควรหยุด
เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา ดำรงอยู่ในฐานะและอฐานะ ดำรงอยู่ในปริกัป ดำรงอยู่ในวาทะที่ควรรู้ทั่วถึง ดำรงอยู่ในปฏิปทา เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา ไม่ พูดกลบเกลื่อน ไม่พูดนอกเรื่องนอกราว ไม่แสดงความโกรธ ความขัดเคืองและ ความเสียใจให้ปรากฏ เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าควรพูด

แต่ถ้าบุคคลเมื่อถูกถามปัญหา ไม่พูดฟุ้งเฟ้อ ไม่ พูดวุ่นวาย ไม่หัวเราะเยาะ ไม่คอยจับผิด เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลนี้ชื่อว่าเป็นผู้ควรพูด