ทางเสื่อมแห่งทรัพย์ ๖ ประการ
๑. การดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
๒. การเที่ยวกลางคืน
๓. การดูมหรสพ
๔. การเล่นการพนัน
๕. การคบคนชั่วเป็นมิตร
๖. ความเกียจคร้าน
โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ
๑. ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง
๒. ก่อการทะเลาะวิวาท
๓. เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
๔. เป็นเหตุเสียชื่อเสียง
๕. เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย
๖. เป็นเหตุทอนกำลังปัญญา
โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการเที่ยวไปในตรอกต่างๆ ในกลางคืน ๖ ประการ คือ
๑. ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว
๒. ไม่คุ้มครอง ไม่รักษาบุตรภรรยา
๓. ไม่คุ้มครอง ไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
๔. เป็นที่ระแวงของคนอื่น
๕. คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้นๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น
๖. แวดล้อมด้วยเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมาก
โทษในการเที่ยวดูมหรสพ ๖ ประการ คือ
๑. รำที่ไหนไปที่นั่น
๒. ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
๓. ประโคมที่ไหนไปที่นั่น
๔. เสภาที่ไหนไปที่นั่น
๕. เพลงที่ไหนไปที่นั่น
๖. เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ
๑. ผู้ชนะย่อมก่อเวร
๒. ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
๓. ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน
๔. ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น
๕. ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท
๖. ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา
โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตร ๖ ประการ คือ
๑. นำให้เป็นนักเลงการพนัน
๒. นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้
๓. นำให้เป็นนักเลงเหล้า
๔. นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม
๕. นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า
๖. นำให้เป็นคนหัวไม้
โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้าน ๖ ประการ คือ
๑. มักอ้างว่าหนาวนัก แล้วไม่ทำการงาน
๒. มักอ้างว่าร้อนนัก แล้วไม่ทำการงาน
๓. มักอ้างว่าเวลาเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน
๔. มักอ้างว่ายังเช้าอยู่ แล้วไม่ทำการงาน
๕. มักอ้างว่าหิวนัก แล้วไม่ทำการงาน
๖. มักอ้างว่ากระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน
เมื่อเขามากไปด้วยการอ้างเลศ ผลัดเพี้ยนการงานอยู่อย่างนี้ ทรัพย์ที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วก็ถึงความสิ้นไป