Main navigation

พระพุทธเจ้าแสดงธรรมแก่กาลามชน ณ นิคมเกสปุตตะ ให้รู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล ธรรมเหล่าใดไม่มีโทษ ธรรมเหล่านั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อสุข บุคคลควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้น

ธรรมที่เป็นกุศล คือ

๑.  ธรรมที่ทำให้เป็นคนไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง

๒.  ธรรมที่ทำให้ไม่ถูกความโลภ ความโกรธ ความหลงครอบงำจิต กลุ้มรุมจิต

ทรงมิให้เชื่อด้วยเหตุ ๑๐ อย่างนี้

๑.  อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
๒.  อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
๓.  อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้
๔.  อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
๕.  อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
๖.  อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
๗.  อย่าได้ยึดถือโดยความตรึกตามอาการ
๘.  อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว
๙.  อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
๑๐, อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา 

พระอานนท์ตรัสแก่คฤหบดีในอาชีวกสูตรว่า

บุคคลใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ บุคคลนั้นกล่าวธรรมดีแล้ว

บุคคคลใดปฏิบัติเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ บุคคลนั้นปฏิบัติดีแล้ว

บุคคลใดละราคะ โทสะ โมหะได้แล้ว บุคคลนั้นดำเนินไปดีแล้ว