Main navigation

๑.  เป็นผู้ตั้งอยู่ในศีลวิสุทธิ ไม่ถูกตำหนิโดยศีล หมั่นตรวจตรามารยาทและสำรวมอินทรีย์เรียบร้อย ศัตรูติเตียนไม่ได้โดยธรรม เพราะไม่มีความผิดที่ฝ่ายศัตรูจะพึงกล่าวถึง

๒.  เป็นผู้แกล้วกล้า พูดจาฉาดฉาน เข้าที่ประชุมไม่สะดุ้ง ไม่ประหม่า กล่าวถ้อยคำมีเหตุไม่ให้เสียความ เมื่อถูกถามปัญหาในที่ประชุม ไม่นิ่งอั้น ไม่เก้อ

๓.  เป็นผู้เชี่ยวชาญ กล่าวถ้อยคำถูกกาล เหมาะแก่การพยากรณ์ ยังหมู่วิญญูชนให้พอใจ

๔.  มีความเคารพในภิกษุทั้งหลายที่แก่พรรษากว่า

๕.  เป็นผู้แกล้วกล้าในอาจริยวาทของตน

๖.  สามารถจะวิจารณ์ ชำนาญในถ้อยคำที่จะพึงกล่าว ฉลาด  จับข้อพิรุธของฝ่ายศัตรู เป็นเหตุให้ฝ่ายศัตรูถูกปราบ และมหาชนก็ยินยอม

๗.  ไม่ลบล้างอาจริยวาทของตน แก้ปัญหาได้ ไม่ติดขัด

๘.  สามารถในหน้าที่ทูตและยอมรับทำกิจของสงฆ์ 

๙.  เมื่อถูกคณะภิกษุส่งไปให้ทำหน้าที่เจรจา ก็ไม่ทะนงตัวว่าตนทำได้ เพราะการทำหน้าที่เจรจานั้นภิกษุต้องอาบัติเพราะวัตถุมีประมาณเท่าใด และการออกจากอาบัติย่อมมีด้วยวิธีใด วิภังค์ทั้งสองนั้นมาแล้วด้วยดีแก่ภิกษุนั้น

๑๐. เป็นผู้ฉลาดในวิธีการออกจากอาบัติ

๑๑. ภิกษุทำกรรมมีก่อความบาดหมางเป็นต้นเหล่าใด ย่อมถึงการขับออก และถูกขับออกด้วยเรื่องเช่นใด ฉลาดในวิภังค์ ย่อมเข้าใจวิธีการรับเข้าหมู่ที่ควรทำแก่ภิกษุผู้ประพฤติวัตรนั้นเสร็จแล้ว

๑๒. มีความเคารพในพระผู้เจริญกว่า คือที่เป็นผู้ใหญ่ ปานกลาง และผู้ใหม่ เป็นบัณฑิต ประพฤติประโยชน์แก่มหาชนในโลกนี้