Main navigation

อนุตัปปิยสูตร

ว่าด้วย
การอยู่ที่ทำให้เดือดร้อนและไม่เดือดร้อน
เหตุการณ์
พระสารีบุตรแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายเรื่องภิกษุผู้ยินดีสักกายะและผู้ยินดีนิพพาน

 

พระสารีบุตรกล่าวว่า

ภิกษุเมื่อสำเร็จการอยู่ ตายแล้วย่อมเดือดร้อน คือ

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ชอบ ยินดี และขวนขวายในความชอบการงาน ในการคุย ในความหลับ ในความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ในความคลุกคลีด้วยคฤหัสถ์ ในธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า นี้เรียกว่า ผู้ยินดีสักกายะ ไม่ละสักกายะ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ

ภิกษุเมื่อสำเร็จการอยู่ ตายแล้วย่อมไม่เดือดร้อน คือ

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไม่ชอบ ไม่ยินดี ไม่ขวนขวายในความชอบการงาน ในการคุย ในความหลับ ในความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ในความคลุกคลีด้วยคฤหัสถ์ ในธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า นี้เรียกว่า ผู้ยินดีนิพพาน ละสักกายะเพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ 

แล้วประพันธ์คาถาต่อไปว่า 

ผู้ใดประกอบธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า
ยินดีธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า
ผู้นั้นย่อมไม่ได้ชมนิพพานที่เกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้

ส่วนผู้ใดละธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า
ยินดีในบทคือธรรมที่ไม่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า
ผู้นั้นย่อมได้ชมนิพพานที่เกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ 



อ่าน อนุตัปปิยสูตร

 

อ้างอิง
อนุตัปปิยสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ ข้อที่ ๒๘๖ หน้า ๒๗๒-๒๗๓
ลำดับที่
5

สถานที่

ไม่ระบุ

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ